การประชุมหารือการทำระบบทดสอบความรู้ความเข้าใจดิจิทัล
การประชุมหารือการทำระบบทดสอบความรู้ความเข้าใจดิจิทัล
วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2566) นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมหารือการทำระบบทดสอบความรู้ความเข้าใจดิจิทัล โดยมีนางสาวรัตนา จรูญศักดิ์สิทธิ์ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อสังคม เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม ONDE 3 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้แทนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ จำนวน 39 แห่ง และสมาคมอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อผลักดันการพัฒนากำลังคนในระดับอุดมศึกษา กับ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เพื่อพัฒนาทักษะการรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศและการเข้าใจดิจิทัลของประเทศไทย(Media and Information Literacy and Digital Literacy: MILDL) (เป้าหมาย ปี 2566 = 70 คะแนน)
สำหรับการพัฒนาระบบ DLbaseline เป็นระบบเพื่อใช้ประกอบการประเมินสมรรถนะด้าน DL และสามารถออกใบ Certificate ให้กับผู้สอบรายบุคคล เพื่อรองรับการพัฒนาขยายผลไปสู่การประเมินสมรรถนะประชากรตามกรอบสมรรถนะด้านดิจิทัล (Digital Competency Framework) ซี่งมี 4 ด้าน ได้แก่ 1) การเข้าใจดิจิทัล (Digital Literacy) 2) การใช้ดิจิทัล (Digital Skill/ICT Skill) 3) การแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือดิจิทัล (Problem Solving with Digital Tools) และ 4) การปรับตัวการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล (Adaptive Digital Transform) ซึ่งที่ประชุมได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาระบบทดสอบความรู้ความเข้าใจดิจิทัล ให้สามารถรองรับการประเมินสมรรถนะประชากร ตามกรอบสมรรถนะด้านดิจิทัล (Digital Competency Framework)
การประชุมในครั้งนี้ ทำให้ สดช. ได้ทราบปริมาณความต้องการใช้งานจากทางราชภัฏเพื่อการพัฒนาระบบ ความต้องการในการขยายผลให้ระบบสามารถรองรับการประเมินสมรรถนะประชากร ตามกรอบสมรรถนะด้านดิจิทัล (Digital Competency Framework) 4 ด้านข้างต้น ซึ่งปัจจุบันทำได้เพียงด้าน Digital Literacy
ทั้งนี้ ระบบทดสอบความรู้ความเข้าใจดิจิทัลมีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินงาน ในการตอบโจทย์ตัวชี้วัดแผน DE ฉบับปรับปรุง ซึ่งได้กำหนดให้ภายในปี 2570 ประชากรไทยมีระดับความเข้าใจไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 และเพื่อช่วยในการส่งเสริมการพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลให้มีความพร้อมที่จะก้าวสู่อุตสาหกรรมใหม่ในอนาคตและช่วยลดการใช้จ่ายงบประมาณด้านการพัฒนากำลังคน ด้านการศึกษาให้กับประเทศ พร้อมทั้งเพื่อให้เกิดกลไกที่หน่วยงานในระดับประเทศ รับรองสมรรถนะให้นักศึกษามีความพร้อมในการเข้าสู่การปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทยได้ต่อไป